อาการ หนาว ใน
ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ ถ้าเธอหนาวเป็นพักๆ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ประกอบกับผมบางลงทุกวัน ผิวแห้งมากขึ้น รู้สึกอ่อนเพลีย อาจบอกได้ว่าเธอเป็นอะไรสักอย่างที่ต่อมไทรอยด์ ระบบเผาผลาญจะทำงานช้าลง ความร้อนในร่างกายก็จะลดลงไปด้วย 4. ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี อันนี้น่าจะเป็นกันเยอะ กับอาการมือเท้าเย็นบ่อย อาจเป็นไปได้ว่าร่างกายของเธอมีระบบไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีพอ เลือดไหลไม่ทั่วร่างกาย ไหลก็ไม่สะดวก หรือที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คืออาจมีหลอดเลือดอุดตันอยู่ตามจุดต่างๆ 5. โรคเรย์นอยด์ โรคนี้เป็นโรคที่เรียกง่ายๆ ว่านิ้วชา ซึ่งเป็นสาเหตุให้เส้นเลือดบริเวณมือตีบ ทำให้การไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่ดีเหมือนปกติ นิ้วจะชา ซีดขาว จึงส่งผลให้เธอรู้สึกหนาวมือ หนาวเท้าอยู่บ่อยๆ แม้อากาศจะปกติแค่ไหนก็ตาม 6. พักผ่อนน้อยไป ถ้าเธอเอาแต่โหมใช้พลังงาน ไม่ว่าจะทำงานหรือจะเล่นโทรศัพท์จนดึกดื่น ทำให้ไม่ได้นอน เช้ามาก็อ่อยเพลีย สะสมบ่อยเข้า ระบบเผาผลาญพลังงานมันจะทำงานได้ไม่ดีเหมือนเดิม ยิ่งนอนน้อยมากเท่าไหร่ ระบบก็ทำงานแย่เท่านั้น ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง ทำให้รู้สึกหนาวได้ง่าย 7. ดื่มน้ำน้อยไป น้ำเป็นสิ่งที่ดีนะ ควรดื่มเข้าไปเยอะๆ เพราะมันคือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิคงที่ หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายภายในจะอยู่ในภาวะแปรปรวน เดี๋ยวร้อนจัด เดี๋ยวเย็นจัด ฉะนั้นดื่มน้ำให้เยอะเข้าไว้ ผิวสวยด้วยนะ 8.
อาการหนาวสั่น: สาเหตุการรักษาและความช่วยเหลือ
- ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกฎกระทรวงกำหนด อัตราความเร็วรถ ล่าสุด ปี 2564
- ทบทวนกระเป๋าน้ำร้อน - ลายการ์ตูนคลายหนาวแก้เมื่อยช่วยลดอาการปวดประจำลดลดบวมเพิ่มการหมุนเวียนโลหิตเพิ่มนม | Good price
- อาการหนาวในเกิดจากอะไร
- หนาวใน...สมุนไพรช่วยได้ - Synergy Japan สาระความรู้ทั่วไป
- นาฬิกา เรือน ทอง seiko
Advertisement ใครเป็นบ้าง "หนาวใน" เป็นสัญญาณบอกอะไร?
อย่ามองข้าม อาการ ‘หนาวง่าย’ - GRID
เพราะคุณเป็นผู้หญิง อาการหนาวง่ายก็ขึ้นอยู่กับเพศด้วยเหมือนกัน เพราะเพศหญิงจะถูกกำหนดให้ต้องการความอบอุ่นในร่างกายมากกว่าเพศชาย ด้วยเหตุนี้กลไกร่างกายของผู้หญิงจึงต้องคงความสมดุลของการไหลเวียนเลือดในสมองและหัวใจอย่างเต็มที่ ดังนั้นการไหลเวียนเลือดในส่วนประสาทมือและเท้าจึงถูกลดความสำคัญลงไปโดยปริยาย เป็นเหตุให้คุณรู้สึกหนาวที่มือและเท้าซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาทจนทำให้รู้สึกหนาวไปทั้งร่างนั่นเอง 9. มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน โรคเบาหวาน ที่ไม่รู้ตัวและไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการปลายประสาทอักเสบได้ ซึ่งอาการนี้จะส่งผลให้มือและเท้าของคุณไวต่อสิ่งเร้าและการสัมผัส จนอาจทำให้รู้สึกหนาวเย็น ณ บริเวณนี้ได้ อีกทั้งปลายประสาทยังจะส่งสารบางอย่างไปยังสมองในส่วนที่ควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้รู้สึกถึงความหนาวเย็นด้วยนะคะ ดังนั้นหากคุณรู้สึกเย็นมือเย็นเท้า รวมถึงปวดปัสสาวะบ่อย ๆ อ่อนเพลีย และรู้สึกคอแห้งถี่ขึ้น สัญญาณเหล่านี้คืออาการเริ่มต้นของโรคเบาหวาน ต้องรีบไปพบแพทย์ด่วนแล้วล่ะ 10.
พริก (chilli) สมุนไพรอย่าง "พริก" ที่ใครๆ ก็รู้จักกันดี จะมีสารชนิดหนึ่งเรียกว่า "สารแคพไซซิน" (capsaicin) ซึ่งสารตัวนี้จะมีส่วนช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายของเราทำงานได้ดีขึ้นระบบการสูดฉีดเลือดดีขึ้น และนอกจากนี้ความเผ็ดร้อนที่เราได้รับจากพริกยังสามารถช่วยในการที่จะทำให้เกิดความเย็นบริเวณปลายนิ้วมือและนิ้วเท้าลดลง เราจึงไม่เกิดอาการชาบริเวณปลายนิ้วมือนิ้วเท้าง่ายๆ เพราะฉะนั้นหนาวนี้ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป หากมี สมุนไพรแก้หนาวใน อย่างพริกไว้ทานเป็นประจำ 2. กระเทียม (gralic) สมุนไพรแก้ห นา วใน ชนิดนี้จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกายของเรา เลือดจะสูบฉีดดีโดยเฉพาะเส้นเลือดฝอยที่อยู่ตามบริเวณผิวหนัง เพราะฉะนั้นเมื่อเลือดไหลเวียนดีเราก็ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าหน้าหนาวๆ เลือดจะแข็งตัว ซึ่งการรับประทานกระเทียมนั้นสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารรับประทาน หรือใครที่ชอบรับประทานแบบสดๆ ก็สามารถรับประทานได้ทันที เพราะไม่ว่าจะสดหรือสุกก็ช่วยแก้อาการหนาวในได้ 3. ขิง (singer) ถ้าพูดถึงสมุนไพรที่มีความเผ็ดร้อนอย่าง " ขิง " หลายคนคงรู้จักกันดี เพราะคนส่วนใหญ่ก็มักจะจิบน้ำขิงร้อนๆ เพื่อบำรุงสุขภาพกันอยู่แล้วซึ่งในขิงมีสารจิงเกอรอล (gingerol) ที่จะทำหน้าที่ช่วยลดคลอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีในร่างกาย และช่วยทำให้หลอดเลือดไม่แข็งตัวหรือจับเป็นลิ่มเลือดได้ง่าย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอากาศหนาวมากขนาดไหน หากมี สมุนไพรแก้หนาวในอย่างขิง ไว้รับประทาน ก็ไม่ต้องกลัวว่าเลือดจะแข็งแน่นอน 4.
ภาวะเลือดจาง หลังคลอด เป็นธรรมดาที่เลือดจะจางลง เพราะต้องเสียเลือดไปเยอะ โดยส่วนใหญ่ก็จะกลับมาเป็นปกติเมื่อได้มีการสร้างเซลล์เม็ดเลือดใหม่ขึ้นมาแทนที่แล้ว แต่ในคุณแม่บางคนก็อาจมีภาวะเลือดจางอย่างรุนแรงได้ ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้มีอาการหนาวในเช่นกัน ทั้งยังอันตรายมากอีกด้วย 2. ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ สังเกตตัวเองสักนิด ว่ามีอาการของต่อมไทรอยด์ผิดปกติหรือไม่ เพราะนั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณแม่มีอาการหนาวในได้เหมือนกัน 3. ขาดวิตามินบี อาการหนาวสั่นหลังคลอด อาจเกิดจากการขาดวิตามินบีได้ เพราะเกิดการลำเลียงออกซิเจนไปสู่เซลล์เม็ดเลือดได้น้อยลง ทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดติดขัด และเกิดอาการหนาวในได้นั่นเอง อาการหนาวสั่นหลังคลอดไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย เพียงแค่เตรียมรับมือไว้ให้พร้อม แต่ถ้าหากอาการหนาวสั่นเกิดขึ้นจากการติดเชื้อ หรือเกิดจากสาเหตุอื่นที่อาจเป็นอันตรายก็ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อหาวิธีการรักษาให้ถูกต้องต่อไป = = = = = = = = = = = = ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ We promise to provide the knowledge and know-how for new mom.